มาทำความรู้จักกับนโยบาย LTV กัน คืออะไรน้า?

LTV ย่อมาจากคำว่า “Loan to Value” หมายถึง อัตราส่วนการให้สินเชื่อโดยเทียบกับมูลค่าหลักประกัน 

แล้วจะมีวิธีคำนวณยังไง?

ตัวอย่างวิธีการหา LTV มีวิธีการคำนวน ดังนี้ ตัวอย่าง : วงเงินสินเชื่อธุรกิจ 800,000 บาท , มูลค่าหลักประกัน 1,000,000 บาท LTV = (800,000 / 1,000,000) * 100. (หรือจะทำเป็นรูปตารางประกอบแล้วแต่จะได้ดูมีอะไร)

นโยบาย LTV ส่งผลกระทบต่อใครบ้าง?

ในตอนนี้ประเทศไทย มีการกำหนดเพดานของ LTV อยู่ที่ 1% จากเดิมการจดทะเบียนโอนบ้านหรือคอนโดจะอยู่ที่ 0.01% 
1. สำหรับบ้านหรือคอนโดราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท หากซื้อบ้านหรือคอนโดหลังแรกจะสามารถกู้ได้ 100% (+10% สำหรับค่าตกแต่งเฟอร์นิเจอร์) แต่ถ้าเป็นบ้านหลังที่ 2 จะต้องวางเงินดาวน์ 10% (หากผ่อนหลังแรกมากกว่า 2 ปี) และวางเงินดาวน์ 20% (หากผ่อนหลังแรกน้อยกว่า 2 ปี) และต้องวางเงิน 30% สำหรับสัญญากู้บ้านหลังที่ 3

2. กำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV ratio) สำหรับบ้านหรือคอนโดราคาเกิน 10 ล้านบาท หากซื้อบ้านหรือคอนโดหลังแรกจะต้องวงเงินดาวน์ 10% ส่วนบ้านหลังที่ 2 วางเงินดาวน์ 20% และบ้านหลังที่ 3 ต้องวางเงิน 30%

แต่ แต่ แต่ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ข้อเสียของนโยบายนี้ ยังมีข้อดีของนโยบายนี้อยู่เช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งเป็นข้อดีวงกว้าง แต่หลายคนอาจจะยังคาดไม่ถึง 

ช่วยลดอัตรา NPL หรือหนี้เสีย ซึ่งมีผลต่อสินเชื่อธนาคารพาณิชย์

กลุ่มคนที่ต้องการกู้เงินซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริงๆ ไม่ได้แสวงหากำไรจากอสังหาฯ และซื้อบ้านต่ำกว่า 10 ล้านบาท นั้นจะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV ใหม่นี้ และที่สำคัญ ป้องกันการเกิดภาวะฟองสบู่แตก ที่มีผลต่อเศรษฐกิจประเทศ นั่นเองค่ะ